การวางตัวที่เหมาะสมของเพศหญิงและเพศชายในสังคมไทย
การวางตัวที่เหมาะสมของเพศหญิงและเพศชายในสังคมไทย
สังคมประกอบด้วยคนหลากหลายอาชีพและฐานะต่างๆ กัน เด็ก ๆ ต้องมีความสัมพันธ์กับบุคคลที่มีวัยแตกต่างกันมาก ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย ญาติ รุ่นพี่ หรือคนในวัยเดียวกัน จนถึงเด็กเล็กๆ จึงทำให้เด็กๆ ปฏิบัติตัวยาก ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร แต่ถ้ามีหลักในการปฏิบัติตัวตามระเบียบประเพณีและวัฒนธรรมไทยแล้ว จะสามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมในทุกสังคมได้ดังนี้
๑. เด็กๆ ทั้งหญิงและชายพึงระลึกอยู่เสมอว่า เราเป็นคนไทย ความสุภาพอ่อนน้อมมีสัมมาคารวะ รู้จักกาลเทศะ เป็นลักษณะประจำชาติ เป็นคุณลักษณะที่บ่งบอกถึงความงดงามของจิตใจ เด็กๆ ที่ปฏิบัติได้ นิ่มนวลจึงทำให้ผู้พบเห็นประทับใจ
๒. “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” เป็นสุภาษิตไทยที่สอนกันมาแต่โบราณ และยังคงใช้ได้ดีในปัจจุบัน
“สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” ไม่ได้หมายความว่าเป็นภาษาท้องถิ่นใดหรือชาติใด แต่ใช้ ความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก คือการพูดด้วยวาจาที่สุภาพ น้ำเสียงน่าฟัง จะอยู่ในสังคมใดก็เป็นที่นิยม แต่ถ้าเป็นการพูดด้วยวาจาที่ไม่สุภาพ รวมกับสำเนียงที่ไม่น่าฟัง ทำให้คนที่ได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นตัวยังเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีและไม่เอ็นดูผู้ฟัง ดังนั้น การพูดด้วยภาษาที่น่าฟังจึงเป็นที่ชื่นชมกับผู้คนทั่วไปเสมอ
“กิริยาส่อสกุล” มีความหมายว่าท่าทางการแสดงออกจะบอกให้ผู้พบเห็นกิริยานั้นรู้ได้ว่า เด็กหญิงหรือเด็กชายผู้นั้นได้รับการอบรมมาอย่างไร กิริยาที่ปรากฏต่อสายตาจึงทำให้รู้สึกเอ็นดูและไม่เอ็นดู
การได้ฝึกกิริยามารยาทและได้รับการอบรมให้มีสำเนียงและภาษาที่เหมาะสมตั้งแต่ยังเด็ก จึงได้ประโยชน์มากเมื่อโตขึ้น
๓. พฤติกรรมการแสดงออกที่เหมาะสม เด็กๆ ในยุคปัจจุบันได้รับการส่งเสริมให้รู้จักคิดวิเคราะห์ เมื่อได้รับการส่งเสริมให้แสดงออกจึงทำให้มีความเชื่อมั่นในตนเอง แต่การพูดเพื่อแสดงความคิดเห็นเป็นการแสดงเหตุผล จึงต้องดูกาลเทศะ ต้องควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์ในการพูด มิฉะนั้นจะกลายเป็นความก้าวร้าว
๔. ความรับผิดชอบ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญกับชีวิต ทุกคนควรระลึกอยู่เสมอว่าการเป็นสมาชิกของสังคม ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกันตามฐานะและความสามารถ
วิธีการปฏิบัติตนของเพศหญิงในสังคมไทย
๑. การวางตัวในสังคม ทุกชนชาติต่างยกย่องให้เกียรติผู้หญิงที่วางตัวดี มีกิริยามารยาทดี และถ้ามี คุณสมบัติของหญิงไทยที่รู้จักกาลเทศะ มีสัมมาคารวะ อ่อนโยน และอ่อนหวานร่วมด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเป็นที่ ชื่นชอบมากขึ้น เด็กผู้หญิงได้รับการสอนให้รักนวลสงวนตัว การจะให้ความสนใจกับใครควรมีขอบเขต และควรมีความระมัดระวังไม่ไปไหนกับผู้ชายแปลกหน้า ไม่ควรให้ผู้ชายถูกเนื้อต้องตัว และควรรักษามารยาทเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ไม่ควรพูดเสียงดังหรือตะโกนพูดกัน เพราะเป็นกิริยาที่ไม่น่าดู
๒. การแต่งกายที่เหมาะสมกับวัย วัยรุ่นยุคนี้นิยมแต่งกายตามแฟชั่นต่างประเทศที่บางครั้งไม่เหมาะสมกับสภาพของสังคมไทย เด็กผู้หญิงไทยควรจะแต่งกายให้งามตามแบบไทยและสร้างแฟชั่นของเราเอง เพราะในสังคมยุคใหม่คนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้นจึงกล้าทำ แต่คนที่ขาดความเชื่อมั่นจะทำตามอย่างและเลียนแบบผู้อื่น
๓. เด็กผู้หญิงไทยควรเรียนรู้บทบาทของแม่บ้าน การช่วยแม่ทำงานบ้าน จะทำให้เป็นคนที่มีความสามารถในการทำงานและสามารถตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้ปรึกษาปัญหาต่าง ๆ กับแม่ ดีกว่าปรึกษาเพื่อนที่เป็นวัยเดียวกันและขาดประสบการณ์ คนที่เชื่อตัวเองและเชื่อเพื่อนมากเกินไป ขาดผู้แนะนำที่เชื่อถือได้ อาจปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง นอกจากนั้นการช่วยงานบ้านยังได้ประโยชน์คือ ได้ความรู้ในการดูแลบ้าน การทำกับข้าว ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ งานบ้านจึงนับว่าเป็นงานที่สำคัญ
วิธีปฏิบัติตนของเพศชายในสังคมไทย
๑. หน้าที่และความรับผิดชอบ เด็กผู้ชายควรเลียนแบบบทบาทการทำหน้าที่ของพ่อบ้าน ด้วยการช่วยพ่อทำงานเพื่อจะได้มีโอกาสปรึกษาพ่อถึงปัญหาต่างๆ ดีกว่าปรึกษาเพื่อนวัยเดียวกัน พ่อจะเป็นผู้ชี้แนวทางการแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า รวมทั้งสามารถแนะนำการวางตัว การปฏิบัติตัวเมื่อโตขึ้นให้มีลักษณะเป็นสุภาพบุรุษที่มีคุณลักษณะที่ผู้ชายควรมีอีกด้วย
นอกจากเรียนนอกเวลาที่ได้จากพ่อ ยังช่วยให้เรารู้ว่าชอบและไม่ชอบอะไร ซึ่งเป็นประโยชน์ในการเลือกอาชีพเมื่อโตขึ้น บางคนได้เรียนรู้ธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่ยังเล็กจึงสามารถเข้าใจระบบงานและขยายออกไปได้ในอนาคต ผู้ชายได้รับการยอมรับในสังคมให้เป็นผู้นำ การฝึกปฏิบัติหน้าที่และมีความรับผิดชอบจึงถือว่ามีบทบาทสำคัญ เพื่อให้โตขึ้นเป็นหลักของครอบครัวได้ และเป็นผู้นำที่ดีของสังคมต่อไป
๒. การเล่นของเด็กผู้ชาย เด็กผู้ชายควรมีกิจกรรมการเล่นที่ต้องตัดสินใจ มีการเคลื่อนไหว เพื่อให้กล้ามเนื้อได้พัฒนาตามวัย นอกจากนั้นเด็กผู้ชายเมื่อโตขึ้นมักจะมีความรู้สึกทางเพศมากกว่าเด็กผู้หญิง การฝึกเล่นกีฬาและการออกกำลังกายจึงเป็นทางออกที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงควรเล่นกีฬาและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
๓. ฝึกการคิดอย่างมีเหตุผลและรอบคอบ เด็กผู้ชายมักชอบเล่นรุนแรง หรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือขาดเหตุผล ซึ่งไม่เป็นคุณลักษณะที่ดีของผู้ชายในวันข้างหน้า ควรฝึกตัวเองให้คิดอย่างมีเหตุผลและรอบคอบ ให้สามารถช่วยคนอื่นพ้นภัยได้ หรือคิดทำงานใหญ่ที่มีอันตรายได้ เพราะรู้ดีว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับตัวเองและผู้อื่นได้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น